ในปัจจุบัน กระแส Art Toy และฟิกเกอร์ยังคงมาแรงอย่างต่อเนื่อง โดยสินค้าเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงของตกแต่ง แต่ยังมีคุณค่าทางจิตใจและเป็นของสะสมที่มีมูลค่าสูงซึ่งเป็นที่ต้องการของนักสะสมทั่วโลก การส่งของแตกง่ายเหล่านี้ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ระหว่างการขนส่งจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก เพราะหากเกิดความเสียหายแม้เพียงเล็กน้อย อาจทำให้มูลค่าของสะสมลดลง หรือเสียหายจนไม่สามารถซ่อมแซมได้ ดังนั้น หากต้องการส่งของให้ลูกค้า หรือส่งให้ใครก็ตาม จำเป็นต้องรู้จักวิธีแพ็กสินค้าอย่างปลอดภัย โดยเฉพาะเมื่อต้องส่งพัสดุไปต่างประเทศ
ทำไม Art Toy และฟิกเกอร์ถึงต้องการการดูแลเป็นพิเศษ ?
Art Toy และฟิกเกอร์เป็นของสะสมที่มักผลิตจากวัสดุที่บอบบาง เช่น เรซิน หรืออะคริลิก ซึ่งเสี่ยงต่อการแตกหักหากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม อีกทั้งยังมีมูลค่าสูง โดยเฉพาะชิ้นลิมิเต็ด หรือตัว Secret ซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้นแม้เพียงเล็กน้อย เช่น รอยขีดข่วน หรือกล่องบุบ ก็อาจลดมูลค่าของของสะสมได้ โดยปัจจัยที่ทำให้ Art Toy และฟิกเกอร์เสียหายระหว่างขนส่งมีดังนี้
- แรงกระแทกจากการขนส่ง เช่น การโยนกล่อง หรือการวางซ้อนสินค้าหนัก
- ความชื้นและอุณหภูมิสูง ที่อาจส่งผลให้สีของ Art Toy เสื่อมสภาพ
- การแพ็กของที่ไม่เหมาะสม เช่น ไม่มีวัสดุกันกระแทก หรือเลือกกล่องที่ไม่พอดีกับสินค้า
การแพ็กสินค้าให้เหมาะสม เพิ่มความแน่นหนาปลอดภัยให้การจัดส่ง
การแพ็กสินค้าอย่างถูกต้องเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้สินค้าถึงมือลูกค้าได้อย่างปลอดภัย โดยเฉพาะการส่งของแตกง่ายไปต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องแก้ว เซรามิก หรือสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งการปฏิบัติตามเทคนิคการแพ็กสินค้าที่ปลอดภัย จะช่วยลดความเสี่ยงจากแรงกระแทกและแรงกดทับได้อย่างมีประสิทธิภาพ
1. เลือกกล่องขนาดพอดี
การเลือกกล่องที่มีขนาดพอดีกับของที่ต้องการจะส่งเป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากใช้กล่องที่ใหญ่เกินไป จะทำให้มีพื้นที่ว่างมาก ส่งผลให้สินค้าขยับ หรือเกิดการกระแทกภายในกล่องระหว่างขนส่งจนเสียหายได้ ในขณะที่หากกล่องเล็กเกินไป สินค้าอาจถูกกดทับจากภายในและเสี่ยงต่อการแตกหัก นอกจากนี้ ยังควรใช้กล่องที่มีโครงสร้างแข็งแรง เช่น กล่องลูกฟูกหนา 3 ชั้น หรือ 5 ชั้น เพื่อรองรับแรงกดจากน้ำหนักสินค้าอื่นที่อาจวางซ้อนกัน
2. เพิ่มชั้นป้องกันด้วยวัสดุซับแรงกระแทก
วัสดุซับแรงกระแทกเป็นตัวช่วยสำคัญในการป้องกันการเสียหายของสินค้า โดยสามารถช่วยดูดซับแรงกระแทกที่อาจเกิดขึ้นจากการเคลื่อนที่ของสินค้า หรือแรงกดจากการวางซ้อนกล่องในระหว่างขนส่ง ซึ่งประเภทของวัสดุกันกระแทกที่ควรใช้ ได้แก่
- บับเบิลกันกระแทก (Bubble Wrap) ใช้ห่อรอบสินค้าเพื่อป้องกันรอยขีดข่วนและดูดซับแรงกระแทก
- โฟมกันกระแทก (EPE Foam) เหมาะสำหรับสินค้าที่ต้องการการป้องกันพิเศษ เช่น ฟิกเกอร์ หรือสินค้าพรีเมียม
- แผ่นรองกันกระแทก (Air Cushion หรือแผ่นโฟมหนา) ใช้รองพื้นและเติมช่องว่างในกล่องเพื่อป้องกันสินค้าเคลื่อนที่
- กระดาษย่น หรือกระดาษลูกฟูก (Corrugated Paper) ใช้เป็นตัวเสริมระหว่างสินค้ากับกล่องเพื่อช่วยกระจายแรงกด
3. ใช้กล่องสองชั้น (Double Box) หรือติดฉลาก “ระวังแตก” ให้ชัดเจน
สำหรับสินค้าที่มีมูลค่าสูง หรือสินค้าที่มีโอกาสแตกหักสูง ควรใช้วิธีแพ็กแบบ Double Box (กล่องสองชั้น) เพื่อเพิ่มระดับการป้องกัน โดยใช้กล่องชั้นในบรรจุสินค้า พร้อมห่อด้วย Bubble Wrap และเสริมวัสดุกันกระแทกให้แน่น แล้วเลือกกล่องชั้นนอกให้มีขนาดใหญ่กว่ากล่องชั้นในประมาณ 5 ซม. เพื่อให้มีพื้นที่สำหรับใส่วัสดุกันกระแทกเพิ่มเติม นอกจากนี้ การติดฉลากแจ้งเตือนให้ชัดเจนก็สามารถช่วยปกป้องสิ่งของได้เช่นกัน โดยควรติดสติกเกอร์ “Fragile” แจ้งเตือนขนาดใหญ่ ที่สามารถมองเห็นได้ง่ายทั้งด้านบนและด้านข้างของกล่อง

เลือกส่งของแตกง่าย ทางไหนดี ต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง ?
เพื่อให้การส่งของแตกง่ายไปถึงมือผู้รับได้อย่างปลอดภัยที่สุด การเลือกบริการขนส่งที่เหมาะสม ควรพิจารณาถึงปัจจัย ดังต่อไปนี้
1. เลือกวิธีการขนส่งที่เหมาะสม
สามารถเลือกขนส่งของที่แตกหัก หรือชำรุดง่าย ได้หลายวิธีตามระยะทางและความเร่งด่วนของพัสดุ โดยมีตัวเลือกยอดนิยมว่าควรส่งของแตกง่ายทางไหนดี ดังนี้
- ขนส่งทางอากาศ เหมาะสำหรับพัสดุที่ต้องการความรวดเร็วและต้องการการดูแลเป็นพิเศษ เช่น เครื่องแก้ว อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือฟิกเกอร์หายากที่มีมูลค่าสูง ข้อดีคือใช้เวลาน้อย แต่ค่าขนส่งอาจสูงกว่าทางอื่น
- ขนส่งทางเรือ เหมาะกับสินค้าปริมาณมากและมีขนาดใหญ่ เช่น เฟอร์นิเจอร์หรือเซรามิกที่ต้องการส่งไปต่างประเทศ ซึ่งค่าขนส่งจะถูกกว่าทางอากาศแต่ใช้เวลานานกว่า
2. บริษัทที่เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ในการจัดส่งสินค้าประเภทแตกง่าย
ไม่ใช่ทุกบริษัทที่จะสามารถดูแลของที่แตกง่ายได้อย่างเหมาะสม ผู้ให้บริการขนส่งบางแห่งเน้นการรับ-ส่งพัสดุจำนวนมาก ซึ่งอาจมีการโยนกล่องหรือวางซ้อนโดยไม่คำนึงถึงความบอบบางของสินค้า จึงควรเลือกบริษัทที่มีระบบขนส่งที่ได้มาตรฐานและมีความเชี่ยวชาญในการจัดการสินค้าที่ต้องการความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเลือกบริษัทที่มีตัวเลือกขนส่งที่ครอบคลุม เช่น บริการส่งพัสดุที่ต้องการดูแลเป็นพิเศษ หรือบริการขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิสำหรับสินค้าบางประเภท พร้อมระบบ Tracking ที่ช่วยให้สามารถตรวจสอบสถานะการขนส่งและติดตามพัสดุได้ทุกขั้นตอน
3. บริการที่มีประกันความเสียหาย เพื่อเพิ่มความมั่นใจ
การส่งของแบบมีประกันจะช่วยเพิ่มความอุ่นใจ โดยเฉพาะเมื่อต้องส่งสินค้าที่มีมูลค่าสูงอย่าง Art Toy และฟิกเกอร์ เพราะหากเกิดความสูญหาย หรือเสียหายระหว่างขนส่ง บริษัทขนส่งจะชดเชยค่าเสียหายตามเงื่อนไขที่กำหนด โดยมีสิ่งที่ต้องตรวจสอบก่อนเลือกประกันสินค้า เช่น วงเงินคุ้มครอง หรือหลักฐานที่ต้องใช้ รวมถึงวิธีและระยะเวลาในการเคลม
4. พิจารณาบริการส่งแบบด่วน
ควรเลือกบริการขนส่งด่วน (Express Delivery) เพื่อให้สินค้าถึงปลายทางโดยเร็วที่สุด ลดระยะเวลาที่สินค้าจะต้องเผชิญความเสี่ยงระหว่างการขนส่ง เช่น การกระแทก การโดนวางซ้อน หรือการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมที่อาจทำให้สินค้าเสียหาย
การส่ง Art Toy หรือฟิกเกอร์ที่แตกง่ายให้ถึงปลายทางอย่างปลอดภัย จำเป็นต้องมีการวางแผนที่ดี ตั้งแต่การเลือกวัสดุในการแพ็ก การจัดการกล่อง รวมถึงการเลือกผู้ให้บริการขนส่งที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้สินค้า หรือของสะสมไปถึงมือผู้รับอย่างไร้กังวล มองหาบริการส่งพัสดุไปต่างประเทศที่เชื่อถือได้ Sabuy Express พร้อมให้บริการส่งด่วนและประกันสินค้า โดยเป็นพันธมิตรกับบริษัทขนส่งชั้นนำระดับโลก เพื่อตอบโจทย์ความต้องการการส่งพัสดุไปต่างประเทศที่หลากหลายและครบวงจร ตั้งแต่จัดซื้อสินค้า ขนส่งสินค้า พร้อมดำเนินพิธีการนำเข้าผ่านศุลกากร โดยสามารถติดตามสถานะได้ตลอด 24 ชั่วโมง สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ 02-026-8996 หรือ https://lin.ee/E6PHauT
แหล่งอ้างอิง
- Guide to Packing & Shipping Fragile Items Overseas. สืบค้นเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2568 จาก https://www.dhl.com/discover/en-sg/ship-with-dhl/essential-guides/how-to-pack-fragile-items