เรื่องควรรู้ก่อนขายของใน Amazon สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ

เนื่องจากในปัจจุบัน การค้าขายออนไลน์ในประเทศไทยมีอัตราการแข่งขันที่ค่อนข้างสูง การสร้างยอดขายจากผู้บริโภคภายในประเทศอย่างเดียว จึงไม่เพียงพออีกต่อไป ผู้ประกอบหลายรายจึงต้องการขยายตลาดไปยังต่างประเทศกันมากขึ้น ซึ่งช่องทางที่สะดวกสบายและเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่สามารถเพิ่มยอดขายได้ไม่ยาก คือ Marketplace ระดับโลกอย่าง Amazon แต่การจะเริ่มต้นขายของใน Amazon ที่สามารถสร้างยอดขายให้เติบโตได้นั้น ผู้ประกอบการจำเป็นจะต้องรู้อะไรบ้าง บทความนี้ได้รวบรวมสิ่งควรรู้ก่อนลงมือขายของจริงมาบอกกันแล้ว

7 เรื่องควรรู้ ! ก่อนลงขายของใน Amazon

Amazon คือหนึ่งในช่องทางขายของออนไลน์ไปต่างประเทศที่น่าสนใจ ด้วยฐานลูกค้าขนาดใหญ่และมีระบบใช้งานที่ง่าย จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการเริ่มต้นขายสินค้าในระดับสากล แต่ก่อนที่ผู้ประกอบการจะเริ่มขายสินค้าใน Amazon มีสิ่งที่ผู้ประกอบการควรรู้เหล่านี้

วิธีสมัครขายของใน Amazon

สำหรับการสมัครเป็นผู้ขายบน Amazon นั้นไม่ยุ่งยาก แต่ต้องเตรียมเอกสารให้พร้อม เช่น บัตรเครดิต ข้อมูลธนาคาร และเอกสารทางธุรกิจ โดยมีขั้นตอนการสมัคร ดังนี้

1. เตรียมอีเมลที่จะใช้ในการสมัครบัญชีผู้ขายให้พร้อม
2. ไปที่เว็บไซต์ Amazon Seller Central https://sellercentral.amazon.com/
3. เมื่อเลือกรูปแบบบัญชีผู้ขายแล้ว ให้กรอกข้อมูลการสมัคร Amazon ต่าง ๆ ลงไปในเว็บไซต์ ดังนี้
   • กรอกข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจ สามารถแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบคือ
     • เปิดบัญชีในนามบริษัท (Company Business) ผู้ขายต้องกรอกชื่อบริษัทเป็นภาษาอังกฤษ
     • เปิดบัญชีในนามบุคคล (Individual Business) ผู้ขายต้องกรอกชื่อและนามสกุลเป็น ภาษาอังกฤษ
   • ที่อยู่
   • บัตรเครดิต
   • บัญชีรับเงิน
   • ชื่อร้าน
   • เอกสารยืนยันตัวตน
4. หลังจากที่กรอกข้อมูลเรียบร้อยแล้วให้กดยืนยันตัวตน
5. รอให้ทาง Amazon อนุมัติ แล้วเริ่มลงขายสินค้าได้เลย

เลือกแผนการขายที่เหมาะสม

เมื่อรู้ขั้นตอนและข้อมูลการสมัครขายของใน Amazon แล้ว สิ่งสำคัญที่ต้องรู้คือความแตกต่างของรูปแบบบัญชีผู้ขาย ที่ต้องเลือกให้เหมาะสมกับความต้องการในการลงขายสินค้า ซึ่งมีอยู่ 2 แบบ คือ

• แผนการขายแบบบุคคลทั่วไป (Individual Selling) เหมาะสำหรับผู้ขายรายย่อยที่ขายสินค้าไม่เกิน 40 ชิ้นต่อเดือน เสียค่าธรรมเนียมรายชิ้น
• แผนการขายแบบมืออาชีพ (Professional Selling) เหมาะสำหรับผู้ขายที่ขายสินค้ามากกว่า 40 ชิ้นต่อเดือน เสียค่าธรรมเนียมรายเดือน

โปรไฟล์ผู้ขาย

ในส่วนของโปรไฟล์ผู้ขายนั้น เปรียบเสมือนหน้าร้านออนไลน์ ผู้ประกอบการจึงควรใส่ข้อมูลสินค้าต่าง ๆ ให้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น รูปภาพ รายละเอียด และคำอธิบายสินค้า ซึ่งข้อมูลเหล่านี้นอกจากจะช่วยดึงดูดความสนใจจากลูกค้าแล้ว ยังช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ร้านค้าออนไลน์อีกด้วย

สินค้าที่จะขาย

ผู้ประกอบการควรเลือกสินค้าที่มีศักยภาพในตลาดต่างประเทศ และตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย โดยควรศึกษาแนวโน้มความต้องการของตลาด รวมถึงพฤติกรรมและความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย อีกทั้งยังจำเป็นจะต้องดูถึงแนวโน้มการซื้อขาย พร้อมทำความเข้าใจหาจุดเด่นและจุดด้อยของคู่แข่ง เพื่อวางกลยุทธ์การขายที่เหมาะสม

ช่องทางในการจ่ายค่าธรรมเนียม

ทาง Amazon จะทำการตัดค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลงขายของบนเว็บไซต์ ผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิต โดยผู้ประกอบการจะต้องกรอกข้อมูลบัตรลงไปในขั้นตอนการสมัคร ซึ่งมีข้อมูล ดังนี้

• หมายเลขบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต
• วันที่หมดอายุของบัตร
• ชื่อและนามสกุลที่อยู่บนหน้าบัตรต้องเป็นภาษาอังกฤษ

บัญชีรับเงิน

อีกสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องรู้คือ Amazon สามารถโอนเงินให้ธนาคารที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น แต่ถ้าหากผู้ประกอบการไม่มี ก็สามารถใช้บัญชีเสมือน (Virtual Account) เพื่อใช้รับเงินจากยอดขาย แต่จะไม่สามารถโอนผ่าน Paypal ได้ โดยบัญชีเสมือนเจ้าหลัก ๆ ที่ผู้ประกอบการมักจะใช้บริการคือ

• Payoneer โดยสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม และสมัครใช้บริการได้ที่ https://www.payoneer.com/th/
• WISE โดยสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม และสมัครใช้บริการได้ที่ https://wise.com/

บริการขนส่งสินค้า

หากผู้ประกอบการจะขายของไปต่างประเทศ สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม คือการเลือกบริการขนส่งสินค้าที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะส่งผลต่อความพึงพอใจของลูกค้า โดยควรเลือกใช้บริการขนส่งที่มีความน่าเชื่อถือ ที่สามารถติดตามสถานะสินค้าได้ตลอดเวลา และมั่นใจได้ว่าจะส่งสินค้าถึงมือลูกค้าได้อย่างปลอดภัย

หวังว่าผู้ประกอบการที่กำลังวางแผนขายของใน Amazon จะสามารถเริ่มต้นการขายสินค้าได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น แต่หากผู้ประกอบการคนไหนที่กำลังมองหาผู้ให้บริการส่งพัสดุไปอเมริกาและประเทศอื่น ๆ ราคาถูก เลือกใช้บริการกับ สบาย เอ็กซ์เพรส (Sabuy Express) ที่พร้อมดูแลแบบครบวงจร ตั้งแต่การให้คำปรึกษา ขอใบอนุญาต และทำการส่งสินค้าให้ถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัย ทั้งยังสามารถติดตามสถานะขนส่งได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ 02-026-8996 หรือ https://lin.ee/E6PHauT

แหล่งอ้างอิง

1. เริ่มต้นใช้งานร้านค้า. สืบค้นเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2567 จาก https://advertising.amazon.com/th-th/library/guides/getting-started-with-stores
2. คู่มือสำหรับสมัครบัญชีผู้ขายบน Amazon. สืบค้นเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2567 จาก https://sell.amazon.co.th/sell/beginners-selling-guide
3. ขายของบน Amazon ไม่ใช่เรื่องยาก เปิดวิธีการสมัคร ต่อยอดธุรกิจ ส่งสินค้าไปทั่วโลก. สืบค้นเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2567 จาก https://www.sentangsedtee.com/career-channel/article_258825