การส่งของจากไทยไปยังอเมริกาไม่ว่าจะเป็นการส่งของใช้ส่วนตัวหรือการส่งของเพื่อค้าขาย หากเราเข้าใจขั้นตอน เงื่อนไขต่างๆ ตลอดจนค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น จะทำให้เราสามารถวางแผนและควบคุมไม่ให้ค่าใช้จ่ายในการขนส่งนั้นบานปลาย เรามาดูกันว่าค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในการส่งของจากไทยไปอเมริกามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง
1. ค่าขนส่ง
ค่าขนส่งถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายหลักในการส่งของโดยขึ้นอยู่กับจุดหมายปลายทางและประเภทในการขนส่ง ซึ่งสามารถแบ่งช่องทางในการส่งได้ดังนี้
– การขนส่งทางอากาศ
เหมาะสำหรับสินค้าที่ต้องการความรวดเร็ว ค่าบริการจะสูงกว่า แต่ใช้เวลาน้อยกว่า เหมาะสำหรับคนที่ต้องการส่งของเเบบเร่งด่วน หรือเหมาะสำหรับสินค้าที่มีอายุสั้น สินค้าที่มีมูลค่าสูง
– การขนส่งทางทะเล
เหมาะสำหรับสินค้าที่มีน้ำหนักมากและไม่เร่งด่วน ค่าบริการจะถูกกว่า แต่ใช้เวลานานกว่า ควรเป็นสินค้าที่มีปริมาณมากหรือสินค้าที่มีน้ำหนักมาก
2. ค่าบรรจุภัณฑ์
การบรรจุภัณฑ์ส่งของเป็นสิ่งสำคัญไม่เเพ้ค่าขนส่ง เพื่อป้องกันความเสียหายของตัวสินค้าที่อาจเกิดขึ้นได้ในระหว่างทางการขนส่ง ซึ่งประเภทบรรจุภัณฑ์ส่งของยอดนิยมจะเป็น
– บรรจุภัณฑ์กล่องกระดาษ
กล่องกระดาษแบบลูกฟูก ที่มีความหนาแน่นสูงในการป้องกันสินค้าในกล่อง และเป็นที่แพร่หลายในการจัดส่ง
– บรรจุภัณฑ์พลาสติกใส
พลาสติกใสกันกระแทก หรือฟิล์มหด ที่เหมาะสมกับสินค้าพวกแก้ว เซรามิค หรือสินค้าที่มีความเสี่ยงแตกสูง โดยนำมาห่อหลายๆทบ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับตัวสินค้า
– บรรจุภัณฑ์แบบสุญญากาศ
หมาะกับสินค้าพวกอาหาร เพื่อคงความสดของอาหาร ป้องกันการเน่าเสีย และลดความเสี่ยงในการเกิดแบคทีเรีย หรือ เสื้อผ้ากันหนาว ผ้านวม โดยการบบรรจุภัณฑ์แบบสุญญากาศจะช่วยประหยัดพื้นที่ได้
– บรรจุภัณฑ์แบบพาเลทหรือลังไม้
ลังไม้แบบกล่องที่มีความทนทานสูง ที่เหมาะกับสินค้าที่มีขนาดใหญ่ สินค้าที่มีความบอบบางแแตกหักง่าย เช่น รูปภาพ เเจกัน ศิลปะวัตถุมงคล การลีลังไม้ช่วยป้องกันสิ่งสกปรกที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการขนส่งได้ดี
3. ค่าประกันภัย
การทำประกันภัยสินค้าคือการป้องกันความเสี่ยงจากความเสียหายที่เกิดจากการขนส่งหรือการสูญหายระหว่างการขนส่ง ซึ่งค่าประกันภัยสินค้าจะขึ้นอยู่กับประเภทของสินค้า โดยการทำประกันภัยสินค้าสามารถช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าสินค้าจะได้รับการชดเชยหากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น
4. ค่าภาษีนำเข้าและศุลกากร
โดยทั่วไปเเล้วเมื่อสินค้าถึงประเทศปลายทาง ผู้รับในประเทศปลายทางอาจจะต้องชำระค่าภาษีนำเข้าและค่าศุลกากร ขึ้นอยู่กับประเภทและมูลค่าของสินค้า ซึ่งค่าใช้จ่ายเหล่านี้จะแตกต่างกันไปตามกฎระเบียบของศุลกากรของแต่ละประเทศ โดยการตรวจสอบกฎระเบียบและอัตราภาษีล่วงหน้าจะช่วยให้คุณสามารถประมาณค่าใช้จ่ายได้อย่างแม่นยำ
– ภาษีนำเข้า
สำหรับประเทศอเมริกา ในกรณีที่สินค้ามีมูลค่ามากกว่า $800 USD (หรือประมาณ 29,000 บาท) มีโอกาสถูกเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม และค่าพิธีการ จากเจ้าหน้าที่ศุลกากรที่ปลายทาง ซึ่งจะขึ้นอยู่ตามดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่
– ค่าศุลกากร
ค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบและผ่านพิธีการศุลกากร
5. ค่าบริการพิเศษ
นอกเหนือจากค่าใช้จ่ายที่กล่าวไปเบื้องต้นทั้งค่าขนส่ง, ค่าบรรจุภัณฑ์, ค่าประกันภัยและค่าภาษีนำเข้าแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเป็นบริการพิเศษต่างๆ ที่จะทำให้การขนส่งไม่ว่าจะเป็น
– บริการจัดส่งสินค้าในพื้นที่ห่างไกล
เพราะประเทศอเมริกามีพื้นที่กว้างขวางมาก ทำให้มีค่าจัดส่งเพิ่มเติมสำหรับการจัดส่งในพื้นที่ห่างไกล
– บริการขนส่งแบบ Direct Signature
เป็นบริการเสริมที่ให้ผู้รับปลายทางเซ็นรับพัสดุทุกครั้งส่งมอบพัสดุในประเทศปลายทาง
ฉะนั้นแล้วการเลือกบริษัทขนส่งที่มีความน่าเชื่อถือและมีประสบการณ์ในการ ส่งของไป usa เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้แน่ใจว่าสินค้าที่ถูกส่งถึงปลายจะปลอดภัยและตรงเวลา ควรเปรียบเทียบราคาและบริการจากบริษัทขนส่งต่างๆ เพื่อหาตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับความต้องการและงบประมาน
สบาย เอ็กซ์เพรส (Sabuy Express) เป็นผู้ให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศที่ครบวงจรในไทย ที่พร้อมให้คำปรึกษาเรื่องการจัดส่งสินค้า คำแนะนำเกี่ยวกับประเภทบรรจุภัณฑ์ส่งของที่เหมาะสม บริการประกันภัยสินค้า และทีมงานที่มีประสบการณ์ในการแพ็คสินค้า คุณจึงมั่นใจได้ว่าสินค้าที่ส่งผ่าน Sabuy Express จะถึงมือผู้รับในสภาพสมบูรณ์และตรงตามเวลาที่กำหนด ไม่ว่าจะเป็น อาหาร, เสื้อผ้า, เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือการส่งสินค้าธุรกิจไปยังลูกค้าต่างประเทศ Sabuy Express คือคำตอบที่คุณไว้วางใจได้ สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ 02-026-8996
แหล่งอ้างอิง
1. ประเภทบรรจุภัณฑ์เพื่อการขนส่ง. สืบค้นเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2567 จาก https://xn--22ck0cj1ebvc3d1a1u.com/transport-packaging/