วิธีส่งอาหารในอุณหภูมิแช่แข็งไปต่างประเทศ สดใหม่จนถึงที่หมาย

พนักงานดำเนินการส่งอาหารในอุณหภูมิแช่แข็ง

การส่งอาหารแช่แข็งไปออสเตรเลียหรือประเทศอื่น ๆ อาจดูเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและท้าทายสำหรับผู้ประกอบการ แต่หากมีการเตรียมพร้อมที่ดีและใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสม จะช่วยให้กระบวนการขนส่งอาหารในอุณหภูมิแช่แข็งระหว่างประเทศง่ายขึ้น และมั่นใจว่าสินค้าจะสดใหม่ ไปจนถึงที่หมายได้อย่างราบรื่น

7 เคล็ดลับส่งอาหารในอุณหภูมิแช่แข็งไปต่างประเทศ

1. เลือกบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมสำหรับอาหารแช่แข็ง

การเลือกบรรจุภัณฑ์เป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างมากต่อการขนส่งอาหารในอุณหภูมิแช่แข็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องส่งไปยังต่างประเทศ ซึ่งบรรจุภัณฑ์ที่ดีต้องสามารถทนต่ออุณหภูมิต่ำ และป้องกันความชื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นผู้ประกอบการจึงควรเลือกใช้วัสดุที่มีคุณสมบัติในการรักษาความเย็น เช่น โฟมโพลีสไตรีน หรือกล่องโฟมสุญญากาศ ที่สามารถป้องกันไม่ให้อาหารเน่าเสียหรือเสื่อมคุณภาพระหว่างการขนส่ง

2. ควบคุมอุณหภูมิแช่แข็งให้เหมาะสมกับประเภทอาหาร

อีกหนึ่งเคล็ดลับที่จะช่วยยืดอายุ คงคุณภาพของอาหารแช่แข็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ คือการควบคุมอุณหภูมิระหว่างการขนส่งให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยสามารถแบ่งประเภทของเนื้อสัตว์ได้ดังนี้

  • อุณหภูมิแช่ปลา กุ้ง หอย ปู ปลาหมึก และสัตว์น้ำต่าง ๆ ควรอยู่ที่ประมาณต่ำกว่า 0 ถึง -18 องศาเซลเซียสเพื่อรักษาความสดใหม่
  • อุณหภูมิแช่เนื้อสัตว์ ต้องคงที่ที่ -18°C หรือต่ำกว่า
  • อุณหภูมิแช่ผักสดและผลไม้ ควรอยู่ที่ประมาณ 4 ถึง 10 องศาเซลเซียส

3. เลือกใช้น้ำแข็งแห้งหรือเจลแพ็กเพิ่มเติม

น้ำแข็งแห้งและเจลแพ็กเป็นตัวช่วยที่ดีในการรักษาอุณหภูมิให้คงที่ระหว่างการขนส่ง โดยน้ำแข็งแห้งยังจะเหมาะสำหรับการส่งอาหารที่ต้องการความเย็นจัด เช่น เนื้อสัตว์แช่แข็ง ในขณะที่เจลแพ็กเหมาะสำหรับอาหารที่ต้องการควบคุมอุณหภูมิในระดับปานกลาง เช่น ผักและผลไม้ การเลือกใช้อย่างเหมาะสมจะช่วยป้องกันการละลายและความเสียหายของสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4. ระมัดระวังการจัดวางสินค้าในระหว่างการขนส่ง

ในระหว่างการขนส่ง สิ่งที่ต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก คือการจัดวางสินค้าในกล่องหรือในตู้แช่แข็ง โดยไม่ควรให้สินค้าถูกบีบอัด จนเสี่ยงที่จะเกิดการละลาย แต่ควรจัดวางให้มีช่องว่างเพียงพอ เพื่อให้อากาศไหลเวียนได้ดี รวมถึงการใช้แผ่นรองกันกระแทกหรือช่องแบ่งในกล่อง ยังจะช่วยลดความเสียหายระหว่างการขนส่งได้อีกด้วย

พ่อบ้านกำลังแกะกล่องอาหารในอุณหภูมิแช่แข็ง

5. ตรวจสอบการทำงานของระบบแช่แข็ง

ระบบแช่แข็งที่มีประสิทธิภาพเป็นหัวใจสำคัญของการส่งอาหารที่ต้องควบคุมอุณหภูมิ โดยก่อนการขนส่ง ควรตรวจสอบอุปกรณ์แช่แข็งและตู้ควบคุมอุณหภูมิให้แน่ใจว่าอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน รวมถึงติดตั้งอุปกรณ์ติดตามอุณหภูมิ (Temperature Logger) เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าจะถูกเก็บในอุณหภูมิที่เหมาะสมจนถึงจุดหมายปลายทาง

6. วางแผนเส้นทางการขนส่งเพื่อให้ถึงที่หมายเร็วที่สุด

การวางแผนเส้นทางขนส่งอย่างรอบคอบ นับเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยงในการสูญเสียคุณภาพของสินค้า โดยผู้ประกอบการควรเลือกใช้บริการขนส่งสินค้าที่สามารถแนะนำเส้นทางที่รวดเร็วและมีความปลอดภัย รวมไปถึงมีบริการขนถ่ายสินค้าระหว่างประเทศอย่างราบรื่น

7. เลือกใช้บริการขนส่งที่มีตู้ควบคุมอุณหภูมิและตู้แช่แข็ง

ปัจจัยสำคัญประการสุดท้าย ที่จะช่วยให้การส่งอาหารแช่แข็งเป็นเรื่องที่สะดวกและง่ายดายขึ้น คือการเลือกบริการขนส่งที่มีความเชี่ยวชาญด้านการจัดการอาหารแช่แข็ง โดยมีตู้แช่แข็งไว้คอยรองรับสินค้าที่ต้องจัดส่งในแต่ละประเภท รวมถึงมีรถขนส่งควบคุมอุณหภูมิ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงสินค้าเสียหายระหว่างทาง ทั้งยังช่วยคงคุณภาพความสดใหม่ไปจนถึงมือผู้บริโภค

การส่งอาหารแช่แข็งไปออสเตรเลียหรือประเทศใดก็ตาม อาจเป็นเรื่องท้าทาย แต่หากมีการวางแผนอย่างรอบคอบ รวมถึงใช้บริการจาก Sabuy Express ที่มีบริการส่งอาหารทะเลแช่แข็งไปออสเตรเลีย ในอุณหภูมิต่ำกว่า -18 ก็จะช่วยให้การจัดส่งให้ถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัย ทั้งยังช่วยคงคุณภาพของอาหารแช่แข็งเอาไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมดำเนินพิธีการศุลกากรอย่างครบวงจร ทำให้การส่งอาหารแช่แข็งเป็นเรื่องง่าย สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ 02-026-8996 หรือ https://lin.ee/E6PHauT

แหล่งอ้างอิง

  1. Behind the Export Scenes: Unveiling the Logistics of Shipping Frozen Goods. สืบค้นเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2567 จาก https://www.brglobaltrade.com/blog/frozen-meat-chicken/behind-the-export-scenes-unveiling-the-logistics-of-shipping-frozen-goods/#:~:text=Best%20Practices%20For%20Smooth%20Shipping%20of%20Frozen%20Goods&text=Select%20carriers%20based%20on%20transit,ice%20packs%20or%20dry%20ice
Share