อยากส่งของไปขายในไปต่างประเทศเริ่มต้นอย่างไร

1. เพิ่มช่องทางการขายและการโปรโมทสินค้าผ่าน E-commerce แพลตฟอร์ม ในต่างประเทศ

ปัจจุบันการสั่งสินค้าออนไลน์ได้รับความนิยมมากขึ้นเป็นอย่างมาก เนื่องจากการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตอย่างแพร่หลายทั่วทุกมุมโลกและวิถีการใช้ชีวิตเปลียนแปลงไป ข้อดีก็คือทุกคนที่ใช้อินเตอร์เน็ตสามารถเข้าถึงการมองเห็นสินค้าของคุณมากขึ้นเพิ่มโอกาสกาสขายที่มากขึ้นปัจจุบันมีแพลตฟอร์มหลายหลาย และช่องทางการขายที่หลายหลายไม่ว่าจะเป็น Amazon,E-bay, TikTok shop หรือ Alibaba ซึ่งมีผู้ใช้ทั่วโลกเป็นจำนวนมาก หากเลือกช่องทางที่เหมาะกับธุรกิจโอกาสเติบโตก็สูงตามไปด้วย ที่สำคัญการตลาดสมัยใหม่สามารถเข้าถึงผู้คนได้ง่ายขึ้น เช่น TikTok, Facebook, Youtube ฯลฯ

2. มองหากลุ่มลูกค้าที่ใช่ สำหรับสินค้าของเรา

ตลาดน่าสนใจ
ในต่างประเทศสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ ซึ่งแต่ละตลาดยังถือเป็นที่น่าจับตามองเนื่องจากเป็นตลาดที่สามารถทำกำไรได้อย่างดี

อันดับ 1 – จีน
ประเทศจีนถือเป็นอันดับต้นที่การส่งออกมีมูลค่าสูงที่สุด ซึ่งคิดเป็นส่วนแบ่งถึง 12.4% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดของไทย โดยสินค้าที่เหมาะแก่การส่งออกไปยังประเทศจีน คือ อาหารประเภท ขนมทานเล่น เช่น กล้วยทอด เผือกทอด ทุเรียนทอด ยาสมุนไพร ยางพารา

อันดับ 2 – สหรัฐอเมริกา
ประเทศสหรัฐอเมริกาถือเป็นแหล่งนำเข้าสินค้าไทยอันดับ 2 ของโลก โดยสินค้าที่อยู่ในความสนใจของผู้บริโภคชาวอเมริกัน คือ อาหารแปรรูป เสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องประดับ เนื่องจากคุณภาพและการตัดเย็บของไทยเป็นที่น่ายอมรับ 

อันดับ 3 – ญี่ปุ่น
ประเทศญี่ปุ่นมีส่วนแบ่งด้านการส่งออกสินค้าจากไทยถึง 9.4% ย้ำชัดถึงความต้องการในสินค้าไทย โดยญี่ปุ่นเป็นชาติที่นิยมใช้ผ้าไหมเป็นอย่างมาก นอกเหนือจากนี้ สินค้าที่น่าสนใจส่งออกก็คือ เครื่องครัว ของใช้ภายในบ้าน เซรามิก และเฟอร์นิเจอร์ไม้สไตล์เก๋ๆ นอกจากนี้ยังมีสมุนไพรจากธรรมชาติ และเครื่องหอมต่างๆ

อันดับ 4 – ฮ่องกง
ประเทศฮ่องกงเป็นอีกหนึ่งประเทศในแถบเอเชีย ที่มีมูลค่าการส่งออกสินค้าจากไทยติดอันดับ มีมูลค่าการส่งออก คิดเป็นทั้งหมด 5.2% สำหรับสินค้าที่เหมาะกับการส่งออกไปโกอินเตอร์ ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าด้านเกษตรกรรม ดังนั้นผลไม้สด อย่างเช่น ข้าว ทุเรียน มะม่วง มะพร้าว รวมไปถึง ดอกไม้นานาชนิด จึงเป็นสิ่งที่เหมาะสม

ทั้งนี้เราจำเป็นต้องเข้าใจความต้องการของกลุ่มลูกค้าของเรา เพื่อที่เราจะได้ผลิตหรือนำเสนอสินค้าที่ตรงกลุ่มและตรงกับความต้องการกับตลาดจริงๆ 

3. การชำระเงิน หรือ การโอนระหว่างประเทศ

การชำระเงินมีความสำคัญมากในการส่งออก เนื่องจากไม่ใช่เป็นการขายภายในประเทศ ที่ลูกค้าจะสามารถเลือกดูสินค้า และส่งสินค้าได้ทันที ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายอยู่ห่างไกลกันมาก หากเกิดปัญหาสินค้าไม่ตรงตามคุณภาพที่ต้องการ 

หรือมีปัญหาเรื่องการชำระเงินแล้ว จะมีความยุ่งยากมากในการติดตามของคืน ซึ่งการชำระค่าบริการผ่านทาง E-Commerce Platform ในการซื้อขายระหว่างประเทศเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่สะดวกสบายทั้งผู้ขาย และผู้ซื้อ

4. การเตรียมสินค้าและแพ็คพัสดุสำหรับส่งออก

การส่งสินค้าไปขายนั้นสิ่งที่สำคัญคือ”สิ้นค้าที่เราส่งไปต้องถืงมือผู้รับอย่างสมบูรณ์ที่สุด” การเตรียมสินค้าและการแพ็คสินค้าจึงเป็นอีกขั้นตอนที่มีความสำคัญอย่างมาก วิธีการแพ็คสินค้าง่ายๆ คือการห่อและการวางเรียงสินค้าในกล่องสำหรับส่งพัสดุที่เหมาะสม อย่าปล่อยให้ในกล่องมีที่ว่าง ใส่กันกระแทกให้เต็ม ปิดเทปให้สนิททุกด้าน สำหรับสินค้าแตกหักง่ายให้ติดฉลาก สินค้าแตกหักง่าย (Fragile) ที่กล่องด้วย

5. มองหาผู้ให้บริการขนส่ง ก่อนส่งสินค้าไปต่างประเทศ

การเลือกผู้ให้บริการขนส่งที่ดีช่วยให้เราจัดการสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ Sabuy Express เป็นผู้ให้บริการขนส่งระหว่างประเทศที่มีระบบการจัดการที่ได้มาตรฐานและได้รวมผู้ให้บริการขนส่งพัสดุระหว่างประเทศชั้นนำ DHL FedEx UPS มาให้เลือกใช้บริการจัดส่ง ซึ่งเรามีการจัดการให้การส่งเป็นเรื่องที่ง่าย มีบริการแพ็คให้ จัดสินค้าที่ต้องการส่งให้ ทำให้การส่งของไปต่างประเทศเป็นเรื่องที่ง่ายสุดๆ บริการจัดส่งแบบ Door to Door ที่สามารถเช็คสถานะได้ 24 ชั่วโมง และค่าส่งก็ยังถูกคุ้มค่าสุดๆ