การตีลังไม้นั้นโดยปกติเป็นหนึ่งในวิธีการป้องกันสินค้าหรือสิ่งของที่เปราะปรางไม่ให้ได้รับความเสียหาย หรือ แตกหักระหว่างทางขนส่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าสินค้านั้นต้องไปต่างประเทศ การตีลังไม้ จะช่วยให้สินค้าภายในลังไม้ปลอดภัยจากการกระแทกหรือลดความเสียหายจากการขนส่ง วันนี้เราจะมาบอก 5 สิ่ง ที่ควรรู้สำหรับการตีลังไม้เพื่อส่งออกสินค้าที่ส่งไปต่างประเทศ
ข้อที่ 1 : การเลือกวัสดุสำหรับตีลังไม้
ก่อนที่จะเริ่มการตีลังไม้ ควรรู้จักประเภทของไม้ เพื่อเลือกไม้ที่เหมาะสมกับประเภทของส่งของไปต่างประเทศ ไม้ที่ใช้จะต้องแข็งแรง ทนต่อการรับน้ำหนักและการกระแทก และควรต้องผ่านการอบและประทับตราตามมาตรฐานสากล เช่น ISPM 15 เพื่อป้องกันแมลงและโรคพืชตามข้อกำหนดการส่งออกไปต่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่ที่นิยมใช้ตีลังไม้กัน จะเป็นประเภทดังต่อไปนี้
ไม้สน (Pine Wood)
- จุดเด่น: เป็นไม้เนื้ออ่อนที่มีน้ำหนักเบา แต่ยังคงด้วยความทนทานสูง ทำให้เป็นที่นิยมใช้ในการตีลังไม้ สำหรับการส่งของไปต่างประเทศ เนื่องจากสามารถรับน้ำหนักได้ดี และยังมีเนื้อไม้ที่สวย เรียบ สามารถเอาไปตัดแต่งได้ง่าย
- การใช้งาน: เหมาะสำหรับสินค้าที่มีน้ำหนักไม่มาก เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้า หรือสินค้าที่ต้องใช้ความประณีตในแพ็คพัสดุ
ไม้อัด (Plywood)
- จุดเด่น: ไม้ที่ผลิตมาจากการนำแผ่นไม้มาประกบกันหลายชั้น ทำให้มีความทนทานต่อแรงกระแทกและความชื้นสูง ไม้อัดมีน้ำหนักที่ค่อนข้างเบาและราคาถูก จึงเหมาะสำหรับการตีลังสินค้าที่มีขนาดใหญ่หรือสินค้าที่ต้องการการป้องกันจากความชื้น
- การใช้งาน: เหมาะสำหรับสินค้าขนาดใหญ่ หรือสินค้าที่ต้องการการขนส่งในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง เช่น ทางเรือ
ไม้ยางพารา (Rubber Wood)
- จุดเด่น: เป็นไม้เนื้อแข็งระดับปานกลาง ที่มีความทนทานและราคาถูก เป็นไม้ที่มีความเหนียว สามารถต้านแรงกระแทกได้ดี สามารถผ่านมาตรฐาน ISPM 15 ได้ง่ายเมื่อผ่านการอบเพื่อฆ่าแมลง ซึ่งจากจุดเด่นที่บอกมาทำให้เป็นไม้ที่ได้รับความนิยมเยอะสุดในการเอาไปทำลังไม้
- การใช้งาน: นิยมใช้ในการตีลังสินค้าที่มีน้ำหนักปานกลาง เช่น อุปกรณ์เครื่องจักร เครื่องใช้ในโรงงาน
ไม้ MDF (Medium-Density Fiberboard)
- ลักษณะเด่น: เป็นวัสดุที่ทำจากการบดไม้ละเอียดแล้วอัดรวมกันเป็นแผ่นผิวเรียบเนียนและง่ายต่อการตัดเพื่อตกแต่ง มีความหนาแน่นปานกลาง และราคาไม่สูงมากนัก แต่ไม่ได้ทนทานเท่าไม้เนื้อแข็งหรือไม้อัด
- การใช้งาน: มักใช้ในการตีลังสินค้าที่ขนส่งในระยะสั้น หรือตีลังสินค้าที่มีน้ำหนักเบาและไม่ต้องการการปกป้องมาก เช่น ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรหรือเฟอร์นิเจอร์ขนาดเล็ก
ข้อที่ 2 : กำหนดขนาดและน้ำหนักของการตีลังไม้
หลายคนมักประเมินน้ำหนักและขนาดของพัสดุต่ำไป โดยลืมคำนึงถึงน้ำหนักและปริมาตรของลังไม้ เมื่อเราแทนกล่องด้วยลังไม้ย่อมส่งผลให้ค่าขนส่งสูงขึ้น เนื่องจากน้ำหนักของลังไม้และขนาดที่ใหญ่ขึ้น ทำให้การส่งของไปต่างประเทศด้วยการตีลังไม้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเมื่อเทียกับการใช้กล่องธรรมาดาในการจัดส่ง
ข้อที่ 3 : การอบไม้
ในบางประเทศ เช่น ออสเตรเลีย มีกฎบังคับให้ผลิตภัณฑ์หรือสินค้าทีมีส่วนประกอบของไม้ ต้องผ่านการอบไม้พร้อมรมยาฆ่าเชื้อ (fumigate) ก่อนถึงจะสามารถเข้าประเทศได้ โดยการอบไม้นั้นจะต้องทำในโรงงานที่ได้มาตรฐานส่งออกต่างประเทศเท่านั้นซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ข้อที่ 4 : จัดเตรียมเอกสารสำคัญในการส่งของไปต่างประเทศ
เมื่อส่งของไปต่างประเทศด้วยการตีลังไม้การจัดเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน เอกสารที่ต้องใช้มีหลายประเภทขึ้นอยู่กับประเภทของสินค้าที่ส่ง เช่น ใบกำกับสินค้า ใบรับรองวัสดุที่ใช้ในการตีลังไม้ เอกสารศุลกากร เป็นต้น โดยการจัดทำเอกสารนี้ต้องอาศัยความเชียวชาญในการทำเพราะหากขาดเอกสารสำคัญเหล่านี้อาจทำให้เกิดปัญหาในการผ่านด่านศุลกากรหรือความล่าช้าในการจัดส่ง
ข้อที่ 5 : เลือกวิธีการขนส่งไปต่างประเทศที่เหมาะสม
หากลูกค้ามีความจำเป็นในการนำส่งของให้ถึงปลายทางโดยเร็ว ควรใช้บริการส่งของทางเครื่องบิน ซึ่งก็ต้องแลกด้วยค่าใช้จ่ายที่แพงขึ้น ในทางกลับกันหากลูกค้าไม่รีบร้อนในการส่งของ การส่งของทางเรือจะช่วยประหยัดแต่ก็จะใช้ระยะเวลานานกว่าการจัดส่งทางเครื่องบิน
หากคุณกำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญในการตีลังไม้ พร้อม ส่งของไปต่างประเทศ Sabuy Express ก็พร้อมให้บริการที่ครอบคลุมทุกขั้นตอน ตั้งแต่การประเมินสินค้า การจัดการตีลังไม้ที่ได้มาตรฐาน อบไม้ ตลอดจนการทำเอกสารต่างๆโดยทีมงานที่มีประสบการณ์ยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นการส่งของทางเครื่องบิน หรือการส่งของทางเรือ สามารถโทรสอบถาม Sabuy Express เพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เบอร์ : 02-026-8996 หรือที่ Line : @sabuyexpressglobal ได้ทุกวันจันทร์ – เสาร์ ตั้งแต่เวลา 9.00 – 18.00 น.
แหล่งอ้างอิง
- การตีลังไม้. สืบค้นเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2567 จาก https://www.cplinter.com/ข้อดีข้อเสียตีลังไม้